Credit picture : สำนักงาน ก.พ.
คุณเคยได้ยินสุภาษิตไทยที่ว่า "สิบพ่อค้าไม่เท่าหนึ่งพระยาเลี้ยง" ไหมครับ? สุภาษิตนี้หมายความว่า ต่อให้มีพ่อค้าหลายคนมาคอยอุปภัมภ์ค้ำชู ก็ยังเทียบไม่ได้กับมีคนที่รับราชการตำแหน่งใหญ่โตเพียงคนเดียวที่คอยเลี้ยงดู หลายคนอาจปฏิเสธว่าไม่จริง แต่รู้หรือไม่ครับว่าปัจจุบัน อาชีพข้าราชการยังคงเป็นอาชีพในฝันของคนไทยอีกหลายล้านคน สังเกตได้จากจำนวน ผู้สมัคร สอบ ก.พ. ภาค ก ที่เปิดรับสมัคร 500,000 คน ก็เต็มทุกที่นั่ง หรือแม้กระทั่ง ทหาร ตำรวจ หรือ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ต่าง ๆ เวลาเปิดรับสมัครเพื่อสอบบรรจุเป็นข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ ก็จะมีผู้สมัครเข้าสอบคัดเลือกเป็นจำนวนหลักหมื่นถึงหลักแสนคน ในขณะที่ตำแหน่งที่เปิดรับกลับมีจำนวนเพียงหลักร้อยเท่านั้น
หากคุณยังไม่รู้ว่าทำไมจึงมีผู้สนใจอยากทำงานราชการขนาดนี้ วันนี้ แบรี่ ติวเตอร์ (Beary Tutor) ขอนำเสนอ 10 เหตุผล โดนใจ ที่จะมาตอบทุกข้อสงสัยว่า ทำไมควรทำงานราชการ
1. มีค่าตอบแทนที่ดี ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัยสำคัญที่ใครสักคนจะเลือกทำงานสักแห่งหนึ่งก็คือค่าตอบแทน หลายคนอาจมองว่า เงินเดือน 15,000 บาท สำหรับผู้ที่เรียนจบคุณวุฒิปริญญาตรี อาจไม่ใช่ค่าตอบแทนที่ดูน่าสนใจนัก แต่ค่าตอบแทนดังกล่าวการันตีได้ว่าจะเพิ่มขึ้นตลอด ไม่มีคงที่ ไม่มีลดลง (เว้นแต่กระทำความผิด) นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานราชการอีกหลายแห่งที่มีเงินเดือนเริ่มต้นมากกว่า 15,000 บาท ตลอดจนมีเงินประจำตำแหน่ง เงินค่าครองชีพ เงินค่าตอบแทนพิเศษ ฯลฯ ที่รวม ๆ แล้ว อาจไม่ได้น้อยกว่าการทำงานในหน่วยงานเอกชนชั้นนำเลย
2. มีสวัสดิการที่ดี ชีวิตเราขึ้นอยู่กับความไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจ็บไข้ได้ป่วย สิ่งที่หลาย ๆ คนคาดหวังจากการเข้ารับราชการก็คือการมีสวัสดิการรักษาพยาบาลที่ดี มีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลรัฐครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งตนเอง คู่สมรส ลูก และพ่อแม่ ซึ่งข้าราชการยังคงได้รับสิทธินั้น แม้จะเกษียณอายุไปแล้วก็ตาม นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการบ้านพัก รถประจำตำแหน่ง หรือแม้กระทั่งเงินให้กู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ ให้ข้าราชการได้มีบ้าน มีรถ มีทุนให้กู้ยืมสำหรับทำธุรกิจเล็ก ๆ ในครอบครัว มีชีวิตความเป็นอยู่ที่แม้จะไม่ร่ำรวยแต่ก็ไม่ลำบาก
3. มีบำเหน็จ บำนาญ หน่วยงานราชการแทบทุกแห่งจะมีการบำเหน็จ บำนาญให้แก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้ใช้จ่ายในยามเกษียณ หากได้รับเป็นบำนาญก็จะมีเงินเดือนไว้ใช้จ่ายตลอดชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้น้อยเลย หรือหากได้รับเป็นบำเหน็จ หากนำมาบริหารดี ๆ ก็สามารถให้เงินต่อเงินไว้ใช้จ่ายได้อย่างไม่ลำบากหรืออาจเป็นเศรษฐีหลังวัยเกษียณก็ได้ ถือเป็นอีกหนึ่งหลักประกันที่สำคัญให้แก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างมีความสุข
4. มีชั่วโมงการทำงานที่พอดี มีวันหยุดเยอะ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐมักมีวัฒนธรรมและรูปแบบการทำงานที่เข้าออกตรงเวลา ส่วนใหญ่จะเข้างาน 08.00 - 16.00 น. เนื่องจากหากเข้าก่อนหรือเลิกทีหลัง อาจถูกมองว่าทำงานไม่มีประสิทธิภาพและใช้ทรัพยากรของรัฐอย่างสิ้นเปลือง (เว้นแต่จะมีภาระงานผูกพัน หรืองานเร่งด่วนให้ต้องเข้างานก่อนและเลิกงานทีหลัง) และมีวันทำงานแค่ 5 วัน คือจันทร์-ศุกร์ หยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ยังไม่รวมสิทธิลาป่วย ลากิจ และลาพักผ่อน งานราชการจึงเป็นงานที่สร้างความสมดุลให้แก่ชีวิตที่ไม่ต้องทำงานหนักจนร่างกายเสื่อมโทรม
5. มีความมั่นคง หน่วยงานราชการไม่แปรผันตามสภาพเศรษฐกิจ ไม่มีไล่ออก (หากไม่กระทำผิดวินัยร้ายแรง) เงินเดือนและตำแหน่งเติบโตขึ้นทุกปี มีระบบอาวุโส และมีระบบการดูแลที่ดี ไม่ต้องร้อน ๆ หนาว ๆ ตอนที่ได้รับเงินเดือนเยอะ ๆ แล้วจะมีคนรุ่นใหม่มาเลื่อยขาเก้าอี้ ไม่ต้องกังวลแม้สมรรถนะการทำงานจะลดลงด้วยปัญหาสุขภาพ ก็ยังมีตำแหน่งงานรองรับในขณะที่ค่าตอบแทนก็ไม่ได้ลดลง
Credit picture : MThai
6. มีหน้ามีตาในสังคม การเข้าทำงานราชการได้ ถือเป็นเครื่องการันตีความรู้ความสามารถของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐคนนั้นได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นผู้ที่สอบได้จากการสอบแข่งขันกับผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ อีกหลายร้อยหลายพันคน มีเครดิตที่ดี จะกู้ยืมเงินหรือค้ำประกันให้ใครก็เป็นไปอย่างง่ายดาย นอกจากนี้วัฒนธรรมไทยยังมองว่าการทำงานราชการเป็นอาชีพที่มีเกียรติ เพราะเป็นอาชีพที่ต้องรับใช้แผ่นดิน ตลอดจนเป็นการใช้อำนาจของรัฐ ถึงขนาดมีสุภาษิตที่ว่า "สิบพ่อค้าไม่เท่าหนึ่งพระยาเลี้ยง"
7. ได้รับการพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ การเข้ารับราชการไม่เพียงแต่จะต้องปฏิบัติตามหน้าที่ความรับผิดชอบประจำวันของตนเองเท่านั้น หากแต่ยังต้องเข้ารับการอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเองอยู่เสมอ โดยหน่วยงานจะมีการส่งไปอบรมตามสถาบันต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบ และตำแหน่งการบังคับบัญชา ตลอดจนให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อให้สามารถนำความรู้ที่ได้รับ มาปฏิบัติงานต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Credit picture : กรุงเทพธุรกิจ
8. มีการทำงานที่เป็นระบบ การทำงานราชการจะมีรูปแบบการปฏิบัติงานในแต่ละตำแหน่งอย่างชัดเจน ผู้ปฏิบัติงานตลอดจนผู้มาขอรับบริการ จึงมีแนวปฏิบัติในการทำงานให้เป็นไปอย่างสะดวก เป็นระเบียบ และมีประสิทธิภาพ เช่น รูปแบบของหนังสือราชการ ขั้นตอนการขอรับบริการ หรือลำดับการบังคับบัญชา เป็นต้น จึงทำให้การทำงานเป็นไปอย่างมีระบบ ง่ายต่อการปฏิบัติ
9. มีความก้าวหน้าในอาชีพที่ชัดเจน ผู้ปฏิบัติงานราชการจะมีความก้าวหน้าในสายอาชีพ (career path) ที่ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น เริ่มต้นที่ระดับปฏิบัติการ หากปฏิบัติงานครบ 3 ปี จะได้รับการปรับเป็นระดับชำนาญการ หากปฏิบัติงานครบ 4 ปี มีผลงาน จะได้รับการปรับเป็นชำนาญการพิเศษ เป็นต้น (ตัวอย่างอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละหน่วยงานนะครับ) ซึ่งทั้งหมดเป็นตำแหน่งที่ทุก ๆ คนมีโอกาสไปถึง อย่างไรก็ตามจะมีหนึ่งในนั้นที่มีความรู้ความสามารถอย่างโดดเด่น อาจได้ไปต่อถึงตำแหน่งบริหารระดับสูง เช่น ผู้อำนวยการสำนัก อธิบดีกรม หรือปลัดกระทรวง เป็นต้น
Credit picture : กรุงเทพธุรกิจ
10. มีวัฒนธรรมการทำงานที่อบอุ่น ผมเชื่อว่าการทำงานในทุก ๆ ที่ ที่ต้องอยู่ร่วมกับคนเยอะ ๆ จะต้องมีปัญหาบ้างไม่มากก็น้อย แต่การทำงานราชการ เราจะมีระบบอาวุโส ที่หล่อหลอมให้น้องใหม่ต้องเคารพรุ่นพี่ หรือผู้น้อยต้องเคารพผู้บังคับบัญชา ซึ่งหากได้ผู้ใหญ่หรือผู้บังคับบัญชาที่ดี เวลาผู้น้อยมีปัญหา จะสามารถปกครองได้ง่ายกว่า มีความช่วยเหลือกันมากกว่า เพราะไม่มีเรื่องผลประโยชน์ เช่น ยอดขาย เข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น การทำงานราชการจึงมีความเป็นครอบครัว มีความอบอุ่น มีความเคารพซึ่งกันและกันมากกว่า
ทั้งหมดนี้ถือเป็น 10 เหตุผลดี ๆ ที่ผมคิดว่าเป็นข้อดีของการทำงานราชการ หลายคนที่ยังคงเดินตามฝันสอบบรรจุราชการอย่างเพิ่งท้อแท้ครับ หากเรามีการเตรียมความพร้อมเต็มที่ วันนึงต้องเป็นของเราอย่างแน่นอน หากใครยังไม่เชื่อว่าทำงานราชการจะดีอย่างที่บทความนี้ได้บอกเอาไว้ไหม ลองสอบบรรจุเข้ามาดู แล้วทำงานราชการสักพัก ก็ไม่เสียหายอะไรนะครับ เพราะผมเชื่อว่าแค่คุณสอบติด มีชื่อประกาศเป็นผู้สอบผ่านการคัดเลือกไม่ว่าจะหน่วยงานใดก็ตาม คุณก็จะเกิดความภาคภูมิใจไม่น้อยแล้ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น