ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แนวข้อสอบ กทม. 2559


ปิดรับสมัครกันไปแล้วสำหรับการเปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2559 ที่เปิดให้บุคคลภายนอกได้มีการสมัครไป ระหว่างวันที่ 21 ธันวาคม 2558 - 12 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา ในตำแหน่งต่าง ๆ รวม 398 อัตรา ได้แก่ ดังนี้

ตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน
1. เจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน                                      ตำแหน่งว่างจำนวน  70  อัตรา
2. เจ้าพนักงานสาธารณสุขปฏิบัติงาน                              ตำแหน่งว่างจำนวน  20  อัตรา
3. นายช่างโยธาปฏิบัติงาน                                              ตำแหน่งว่างจำนวน  40  อัตรา
4. นายช่างสำรวจปฏิบัติงาน                                             ตำแหน่งว่างจำนวน  50  อัตรา
5. พนักงานปกครองปฏิบัติงาน                                         ตำแหน่งว่างจำนวน  8  อัตรา
6. พนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยปฏิบัติงาน      ตำแหน่งว่างจำนวน  200  อัตรา

ตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติงาน
1. เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยปฏิบัติการ         ตำแหน่งว่างจำนวน  4  อัตรา
2. วิศวกรโยธาปฏิบัติการ                                                          ตำแหน่งว่างจำนวน  6  อัตรา

โดย กทม. จะมีการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าสอบ วัน เวลา สถานที่ และวิธีปฏิบัติสำหรับผู้เข้าสอบ ในวันที่ 26 มกราคม 2559 นี้ ทางเว็บไซต์ http://ksp.bangkok.go.th และ http://www.bangkok.go.th/exam

ซึ่งทาง กทม. ได้มีการกำหนดให้มีการสอบข้อเขียนทั้้ง ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) และ ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข.) ในวันเดียวกันคือ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2559 



นับจากวันนี้ไปก็มีเวลาเตรียมตัวไม่ถึงเดือนแล้ว สำหรับการสอบ กทม. ประจำปี 2559 ที่จะมาถึงใน วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2559 นี้ เพื่อให้การเตรียมตัวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ที่กำลังจะเข้าสอบควรมีการเตรียมตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) ตามแนวข้อสอบ กทม. โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้

1. วิชาความสามารถทั่วไป (คะแนนเต็ม 60 คะแนน)
    1.1 ความสามารถด้านการคิดคำนวณ ได้แก่ คณิตศาสตร์ทั่วไป เช่น อนุกรม การแก้สมการ ร้อยละ เป็นต้น
    1.2 ความสามารถด้านเหตุผล ได้แก่ ความเชื่อมโยงของคำ รูปภาพ สัญลักษณ์ สถานการณ์ และแบบจำลองต่าง ๆ   เช่น เงื่อนไขสัญลักษณ์ ตรรกศาสตร์ มิติสัมพันธ์ เป็นต้น

2. วิชาภาษาไทย (คะแนนเต็ม 60 คะแนน)
    2.1 ความเข้าใจภาษา ได้แก่ การอ่านและทำความเข้าใจบทความ เช่น บทความสั้น บทความยาว เป็นต้น
    2.2 การใช้ภาษา เป็นการทดสอบความสามารถในการเลือกใช้คำหรือกลุ่มคำ เช่น การเรียงประโยค การเลือกใช้คำให้ถูกต้อง เป็นต้น

3. วิชาความรอบรู้และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน (คะแนนเต็ม 80 คะแนน)
- การปกครองท้องถิ่น หลักธรรมาภิบาล หลักเศรษฐกิจพอเพียง หลักสิทธิมนุษยชน
- กฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร
- กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร
- กฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ
- พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
- ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ
- ระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยวิธีปฏิบัติงานสารบรรณ




Beary Tutor กลุ่มติวเตอร์มืออาชีพในการติวสอบราชการ รัฐวิสาหกิจ ติวสอบนักเรียนนายสิบตำรวจ และติวสอบ ก.พ. ภาค ก มีความพร้อมในการเป็นผู้ช่วยของท่านในการ ติวสอบข้าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในวิชาต่าง ๆ ได้แก่

วิชาความรู้ทั่วไป (เชาว์ปัญญา (Aptitude Test)
วิชาภาษาไทย
วิชาคณิศาสตร์ทั่วไป
พรบ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528
พรบ.ระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร และบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2554
พรก. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526

ฯลฯ

ทั้งหมดนี้ติวแบบพิเศษ ตัวต่อตัว

การ ติวสอบข้าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นการติวแบบใกล้ชิด ติวแบบตัวต่อตัว โดยติวเตอร์ในทีม Beary Tutor ที่การันตีความรู้ความสามารถ ได้จากผลการเรียนยอดเยี่ยมทั้งในระดับมัธยมศึกษาในสายวิทย์คณิต เป็นนักศึกษาทุนเรียนดีในระดับอุดมศึกษา และจบการศึกษาเพียง 3 ปี จากมหาวิทยาลัยนำ 

ที่สำคัญติวเตอร์ทุกคน มีผลสอบผ่านความรู้ความสามารถทั่วไป ภาค ก ทั้งระดับปริญญาตรี และปริญญาโท จากสำนักงาน ก.พ. สามารถสอบบรรจุเป็นพนักงานในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานระดับ ประเทศ และมีประสบการณ์ติวสอบหน่วยงานราชการต่าง ๆ ซึ่งมีนักเรียนสอบติดมากมาย ดังนั้น จึงแสดงให้เห็นว่า การติวแบบตัวต่อตัวกับ Beary Tutor เพื่อเตรียมความพร้อม สอบข้าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)  นั้น เป็นการติวที่ใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพ

สำหรับอัตราค่าเล่าเรียนนั้น จะคิดเป็นรายชั่วโมง ซึ่งการ ติวสอบ สอบข้าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ของ Beary Tutor นั้น ได้แก่ 

- 1-2 คน เพียงชั่วโมงละ 400 บาท/คน 

- 3 คนขึ้นไป ชั่วโมงละ 300 บาท/คน

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

โทร. 085 934 1130

Line : bearytutor

E-mail : bearytutor@gmail.com

FB : www.facebook.com/bearytutor

Blog : http://bearytutor.blogspot.com/2015/10/58-357.html

‪#‎bearytutor‬ ‪#‎ติว‬ ‪#‎สอบราชการ‬ ‪#‎สอบรัฐวิสาหกิจ‬ #สอบการไฟฟ้า #‎สอบตำรวจ‬ ‪#‎สอบนายสิบ‬ ‪#‎สอบทหาร‬ ‪#‎สอบกทม‬. ‪#‎ความรู้ความสามารถทั่วไป‬ #aptitudetest ‪#‎ภาษาไทย‬ ‪#‎ภาษาอังกฤษ‬ ‪#‎กฎหมาย‬ ‪#‎คณิตศาสตร์ #ระเบียบสารบรรณ #การบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เคล็ดลับสอบ ก.พ. ภาค ก : การทำข้อสอบอนุกรม

การ สอบ ก.พ. ภาค ก ในปัจจุบัน ได้แบ่งออกเป็น การสอบการคิดวิเคราะห์ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แม้ว่ารูปแบบข้อสอบจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่และเป็นข้อสอบที่หลายๆ คน มองว่าเป็นเรื่องที่ยาก นั่นคือ "อนุกรม" อนุกรม หมายถึง ชุดของตัวเลขที่เรียงลำดับกันอย่างเป็นระบบ โดยแบ่งออกเป็นเพิ่มขึ้น (การบวกและคูณ) และลดลง (การลบและหาร) ซึ่งความยากของการทำข้อสอบอนุกรมก็คือการค้นหาระบบที่ทางผู้ออกข้อสอบต้องการนั่นเอง โดยเคล็ดลับและวิธีการทำข้อสอบอนุกรมสามารถพิจารณาได้จากวิธีการดังต่อไปนี้ 1. อนุกรมลำดับชั้น วิธีการทำข้อสอบคือการลองหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวเลขโดยการตีแฉก แล้วคำนวณดูว่าตัวเลขแต่ละลำดับนั้นห่างกันเท่าไหร่ และห่างกันอย่างไร ดังแสดงให้เห็นได้ในภาพที่ 1     ภาพที่ 1 2. อนุกรมสะสม วิธีการทำข้อสอบคือการลองหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวเลขในแต่ละชุด อาจกำหนดเป็นชุดละ 2 หรือ 3 ลำดับ แล้วพิจารณาดูว่าผลจากการคำนวณนั้นตรงกับลำดับถัดไปหรือไม่? หากใช่ ให้ลองทำกับลำดับต่อๆ ไป จนได้คำตอบในลำดับสุดท้าย ดังแสดงให้เห็นได้ในภาพที่ 2 ภาพที่ 2   นอกจาก อนุกรม ทั้งสอง

วิธีสร้างรหัสแบบสอบถาม ก่อนเข้าสู่การใช้งาน SPSS

แบบสอบถาม เป็นเครื่องมือการวิจัยที่ได้รับความนิยมจากนักวิจัย และนักเรียน นักศึกษา ในระดับต่างๆ เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างครบถ้วนแล้ว กระบวนการถัดมาคือการ  คีย์ข้อมูล  ลงโปรแกรม SPSS แต่ด้วยจำนวนแบบสอบถามที่มีเป็นจำนวนมาก โดยแต่ละชุดก็มีข้อคำถามที่หลากหลาย ดังนั้น เพื่อเป็นการลดความผิดพลาด จึงควรมีการ  สร้างรหัสแบบสอบถาม เพื่อให้การ  ลงข้อมูล หรือ คีย์แบบสอบถาม เป็นไปอย่างถูกต้อง โดย BEARY Tutor มีข้อแนะนำดังนี้ 1. เขียนรหัสแบบสอบถามเพื่อเรียงลำดับชุด ในการทำวิจัยแต่ละครั้ง มักใช้  แบบสอบถาม  เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ในแต่ละชุดยังประกอบไปด้วยจำนวนข้อคำถามมีหลายข้อ การเขียนรหัสแบบสอบถาม ลงบนหัวกระดาษ ซึ่งปกติจะเขียนบริเวณมุมบนขวา โดยใช้ตัวเลข 3 หลัก (ตามจำนวนชุดของแบบสอบถามทั้งหมด) เรียงตามลำดับการ ลงรหัสแบบสอบถาม ( คีย์ข้อมูลแบบสอบถาม ) เพื่อป้องกันความสับสนระหว่างการคีย์ รวมไปถึงการแก้ไขข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ในกรณีที่มีการคีย์ผิดพลาด 2. สร้างรหัสตัวแปร  การลงรหัสแบบสอบถาม จำเป็นต้องสร้างรหัสของข้อมูล ซึ่งก็คือตัวแปรต่างๆ เพื่อให

ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของ Maslow ทฤษฎีคลาสสิคที่ใช้ในงานวิจัย

ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของ Maslow (Maslow's hierarchy of needs) ภาพ ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของ Maslow ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/ลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์ ในการจัดทำงานวิจัย ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัยทางการตลาด การทำวิทยานิพนธ์ สารนิพนธ์ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทางด้านการตลาด หรือพฤติกรรมผู้บริโภค จะต้องมีการศึกษาทฤษฎีหนึ่งซึ่งเป็นทฤษฎีอมตะที่บ่งบอกถึงความต้องการของมนุษย์ไว้ได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย นั่นคือ " ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของ Maslow (Maslow's hierarchy of needs) "  Abraham H. Maslow (1954 อ้างถึงในวิบูลย์ จุง, 2550) อธิบายว่า พฤติกรรมของมนุษย์เป็นจำนวนมากสามารถอธิบายโดยใช้แนวโน้มของบุคคลในการค้นหาเป้าหมายที่จะทำให้ชีวิตของเขาได้รับความต้องการ ความปรารถนา และได้รับสิ่งที่มีความหมายต่อตนเอง โดยลำดับขั้นความต้องการของมนุษย์ (The Need –Hierarchy Conception of Human Motivation) สามารถเรียงไว้อย่างเป็นลำดับ ได้ดังนี้ 1. ความต้องการทางร่างกาย ( Physiological needs ) เป็นความต้องการขั้นพื้นฐาน ที่มีอำนาจมากที่สุดและสังเกตเห็นได้ชัดท