ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บริการติวสอบ ก.พ. ภาค ก, ภาค ก พิเศษ ประจำปี 2560 แบบตัวต่อตัว


เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา เป็นวันประกาศผล การสอบ ก.พ. ภาค ก ประจำปี 2559 ทุกระดับ ซึ่งปีนี้มีความพิเศษตรงที่ผู้เข้าสอบทุกคน จะทราบผลคะแนนการสอบของตนเองด้วย ทำให้สามารถทราบจุดอ่อน หรือจุดแข็งของตนเองได้เป็นอย่างดี ซึ่งการประกาศผลสอบในแต่ละครั้ง แน่นอนว่ามีทั้งความยินดี และความเสียใจ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนับว่าผู้ที่มีความฝันจะสอบราชการถือว่ามีโอกาสเพิ่มมากขึ้น เพราะหลาย ๆ หน่วยงานเปิดให้สอบภาค ข ก่อน แล้วจึงค่อยเปิด สอบ ก.พ. ภาค ก พิเศษ ขึ้น เพื่อให้สามารถบรรจุข้าราชการได้ทันต่อความต้องการ




ปัจจุบัน การสอบ ก.พ. ภาค ก หรือ ภาค ก พิเศษ นั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 85 ข้อ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่ 1) วิชาความรู้ความสามารถทั่วไป 2) วิชาภาษาไทย และ 3) วิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งผู้ที่พลาดหวังจากการ สอบ ก.พ. ภาค ก ครั้งที่ผ่านมา, กำลังจะสอบ ก.พ. ภาค ก พิเศษ หรือ กำลังจะลองสอบ ก.พ. ภาค ก ประจำปี 2560 จำเป็นจะต้องรู้ โดยมีรายละเอียดการสอบต่าง ๆ ดังนี้

หลักเกณฑ์การสอบ ก.พ. ภาค ก ประจำปี 2560 / ภาค ก พิเศษ

จำนวนข้อสอบทั้งหมด 85 ข้อ แบ่งเป็น

1) วิชาความสามารถทั่วไป จำนวน 40 ข้อ ได้แก่
- อนุกรม 5 ข้อ
- คณิตศาสตร์ทั่วไป 5 ข้อ
- ตารางและกราฟ 5 ข้อ
- สดมภ์ 5 ข้อ
- อุปมาอุปมัย 5 ข้อ
- เงื่อนไขสัญลักษณ์ 5 ข้อ
- เงื่อนไขภาษา 5 ข้อ
- ตรรกศาสตร์ 5 ข้อ

2) วิชาภาษาไทย จำนวน 20 ข้อ ได้แก่
- การบกพร่องในการใช้ภาษาแบบขีดเส้นใต้ (ก ข ค) 5 ข้อ
- เรียงประโยค 5 ข้อ
- บทความ (สั้น + ยาว) 10 ข้อ

โดยผู้เข้าสอบใน ระดับปริญญาตรี จะต้องทำคะแนนทั้งสองส่วนรวมกันไม่น้อยกว่า ร้อยละ 60 ส่วน ระดับปริญญาโท จะต้องทำคะแนนทั้งสองส่วนรวมกันไม่น้อยกว่า ร้อยละ 65

3) วิชาภาษาอังกฤษ จำนวน 25 ข้อ ได้แก่
- Conversation 5 ข้อ
- Vocabulary และ Expressions 5 ข้อ
- Structure 5 ข้อ
- Reading Comprehension 10 ข้อ

โดยผู้เข้าสอบทั้งใน ระดับปริญญาตรี และ ระดับปริญญาโท จะต้องทำ คะแนนวิชาภาษาอังกฤษไม่น้อยกว่าร้อยละ 50



Beary Tutor (แบรี่ ติวเตอร์) บริการ ติวสอบ ก.พ. ภาค ก ประจำปี 2560 หรือ ติวสอบ ก.พ. ภาค ก พิเศษ แบบตัวต่อตัว ด้วยติวเตอร์มืออาชีพ สอบผ่านมาแล้วทั้ง ก.พ. ภาค ก ทั้งระดับปริญญาตรี และปริญญาโท พร้อมทั้งมีประสบการณ์สอบติดหน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจชั้นนำมากมายของประเทศ ปัจจุบันเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานชั้นนำของประเทศ พร้อมแล้วที่จะเป็นผู้ช่วยคุณในการติวสอบแบบตัวต่อตัว ทั้งสอบ ก.พ. ภาค ก สนามใหญ่ หรือ ก.พ. ภาค ก พิเศษ ประจำปี 2560

ติวกับ Beary Tutor (แบรี่ ติวเตอร์) ดีอย่างไร?
- ติวแบบตัวต่อตัว ใกล้ชิด สามารถทำความเข้าใจบทเรียนได้ดีกว่า
- มุ่งเน้นการเสริมจุดแข็ง และปิดจุดอ่อนให้แก่ผู้เรียน
- เลือกเรียนเฉพาะส่วนที่ตัวเองไม่ถนัดได้
- แบบเรียนปรับตามความสนใจของผู้เรียน
- เวลาและสถานที่ยืดหยุ่นตามความสะดวกของผู้เรียน
- แนะวิธีลัดในการทำข้อสอบ ให้สามารถคิด วิเคราะห์ และทำข้อสอบได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
- ติวเตอร์มากประสบการณ์ในแวดวงการสอบราชการ 
- สอนพร้อมชีท และแบบฝึกหัดเสมือนข้อสอบจริงในทุกวิชาที่ใช้สอบ ก.พ. ภาค ก
- ค่าติวแบบตัวต่อตัวราคาพิเศษเพียง ชั่วโมงละ 400 บาท/คน ติว 3 ชั่วโมงต่อครั้งเพียง 1,000 บาท หากติว มากกว่า 3 คน เหลือเพียง ชั่วโมงละ 300 บาท/คน

ติวก่อน รู้ก่อน พร้อมก่อน พร้อมสอบราชการสนามต่าง ๆ ก่อนสอบภาค ก.พ. ภาค ก ได้ทันที

จองก่อนเต็ม ! ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 085 934 1130
Line id: bearytutor
E-mail: bearytutor@gmail.com
FB: www.facebook.com/bearytutor
Blog: http://bearytutor.blogspot.com

---------------------------------------------
http://bearytutor.blogspot.com/2016/11/2560.html

#bearytutor #ติว #สอบกพ #สอบภาคก #กพ #ภาคก #ภาคก2560 #สอบราชการ #สอบรัฐวิสาหกิจ #สอบนายสิบ #สอบกทม #สอบตำรวจ #สอบทหาร #สอบความรู้ความสามารถทั่วไป #aptitudetest #ติวคณิตศาสตร์ #ติวภาษาไทย #ติวภาษาอังกฤษ #ติวระเบียบสารบรรณ #ติวสอบการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี #ติวแบบตัวต่อตัว

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เคล็ดลับสอบ ก.พ. ภาค ก : การทำข้อสอบอนุกรม

การ สอบ ก.พ. ภาค ก ในปัจจุบัน ได้แบ่งออกเป็น การสอบการคิดวิเคราะห์ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แม้ว่ารูปแบบข้อสอบจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่และเป็นข้อสอบที่หลายๆ คน มองว่าเป็นเรื่องที่ยาก นั่นคือ "อนุกรม" อนุกรม หมายถึง ชุดของตัวเลขที่เรียงลำดับกันอย่างเป็นระบบ โดยแบ่งออกเป็นเพิ่มขึ้น (การบวกและคูณ) และลดลง (การลบและหาร) ซึ่งความยากของการทำข้อสอบอนุกรมก็คือการค้นหาระบบที่ทางผู้ออกข้อสอบต้องการนั่นเอง โดยเคล็ดลับและวิธีการทำข้อสอบอนุกรมสามารถพิจารณาได้จากวิธีการดังต่อไปนี้ 1. อนุกรมลำดับชั้น วิธีการทำข้อสอบคือการลองหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวเลขโดยการตีแฉก แล้วคำนวณดูว่าตัวเลขแต่ละลำดับนั้นห่างกันเท่าไหร่ และห่างกันอย่างไร ดังแสดงให้เห็นได้ในภาพที่ 1     ภาพที่ 1 2. อนุกรมสะสม วิธีการทำข้อสอบคือการลองหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวเลขในแต่ละชุด อาจกำหนดเป็นชุดละ 2 หรือ 3 ลำดับ แล้วพิจารณาดูว่าผลจากการคำนวณนั้นตรงกับลำดับถัดไปหรือไม่? หากใช่ ให้ลองทำกับลำดับต่อๆ ไป จนได้คำตอบในลำดับสุดท้าย ดังแสดงให้เห็นได้ในภาพที่ 2 ภาพที่ 2   นอกจาก อนุกรม ทั้งสอง

วิธีสร้างรหัสแบบสอบถาม ก่อนเข้าสู่การใช้งาน SPSS

แบบสอบถาม เป็นเครื่องมือการวิจัยที่ได้รับความนิยมจากนักวิจัย และนักเรียน นักศึกษา ในระดับต่างๆ เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างครบถ้วนแล้ว กระบวนการถัดมาคือการ  คีย์ข้อมูล  ลงโปรแกรม SPSS แต่ด้วยจำนวนแบบสอบถามที่มีเป็นจำนวนมาก โดยแต่ละชุดก็มีข้อคำถามที่หลากหลาย ดังนั้น เพื่อเป็นการลดความผิดพลาด จึงควรมีการ  สร้างรหัสแบบสอบถาม เพื่อให้การ  ลงข้อมูล หรือ คีย์แบบสอบถาม เป็นไปอย่างถูกต้อง โดย BEARY Tutor มีข้อแนะนำดังนี้ 1. เขียนรหัสแบบสอบถามเพื่อเรียงลำดับชุด ในการทำวิจัยแต่ละครั้ง มักใช้  แบบสอบถาม  เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ในแต่ละชุดยังประกอบไปด้วยจำนวนข้อคำถามมีหลายข้อ การเขียนรหัสแบบสอบถาม ลงบนหัวกระดาษ ซึ่งปกติจะเขียนบริเวณมุมบนขวา โดยใช้ตัวเลข 3 หลัก (ตามจำนวนชุดของแบบสอบถามทั้งหมด) เรียงตามลำดับการ ลงรหัสแบบสอบถาม ( คีย์ข้อมูลแบบสอบถาม ) เพื่อป้องกันความสับสนระหว่างการคีย์ รวมไปถึงการแก้ไขข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ในกรณีที่มีการคีย์ผิดพลาด 2. สร้างรหัสตัวแปร  การลงรหัสแบบสอบถาม จำเป็นต้องสร้างรหัสของข้อมูล ซึ่งก็คือตัวแปรต่างๆ เพื่อให

ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของ Maslow ทฤษฎีคลาสสิคที่ใช้ในงานวิจัย

ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของ Maslow (Maslow's hierarchy of needs) ภาพ ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของ Maslow ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/ลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์ ในการจัดทำงานวิจัย ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัยทางการตลาด การทำวิทยานิพนธ์ สารนิพนธ์ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทางด้านการตลาด หรือพฤติกรรมผู้บริโภค จะต้องมีการศึกษาทฤษฎีหนึ่งซึ่งเป็นทฤษฎีอมตะที่บ่งบอกถึงความต้องการของมนุษย์ไว้ได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย นั่นคือ " ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของ Maslow (Maslow's hierarchy of needs) "  Abraham H. Maslow (1954 อ้างถึงในวิบูลย์ จุง, 2550) อธิบายว่า พฤติกรรมของมนุษย์เป็นจำนวนมากสามารถอธิบายโดยใช้แนวโน้มของบุคคลในการค้นหาเป้าหมายที่จะทำให้ชีวิตของเขาได้รับความต้องการ ความปรารถนา และได้รับสิ่งที่มีความหมายต่อตนเอง โดยลำดับขั้นความต้องการของมนุษย์ (The Need –Hierarchy Conception of Human Motivation) สามารถเรียงไว้อย่างเป็นลำดับ ได้ดังนี้ 1. ความต้องการทางร่างกาย ( Physiological needs ) เป็นความต้องการขั้นพื้นฐาน ที่มีอำนาจมากที่สุดและสังเกตเห็นได้ชัดท